ถ้าพรุ่งนี้มีเพียงแค่เราจะเอาไหม
เพราะความจริงช่างโหดร้าย
อยากพาเธอหนีไปให้แสนไกล
โลกของเธอและฉันกำลังแหลกสลาย
ฉันคงทนไม่ไหว
หากต้องเสียเธอให้เขาไป
jim:我没有金银财宝,但愿意为你写诗到老。
เพราะความจริงช่างโหดร้าย
อยากพาเธอหนีไปให้แสนไกล
โลกของเธอและฉันกำลังแหลกสลาย
ฉันคงทนไม่ไหว
หากต้องเสียเธอให้เขาไป
jim:我没有金银财宝,但愿意为你写诗到老。
#王一博0805生日快乐#สุขสันต์วันเกิดพิป๋อ ขอบคุณที่เกิดมาเป็นอะไรหล่อๆอู๊ดๆแสนน่ารักของแฟนคลับ ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีของพิ แข็งแรง มีตัง มีเวลาใช้ตัง มีเวลานอน ได้ทำในสิ่งที่ชอบ เจอแต่คนดีๆ แฮปปี้มีฟามสุขตลอดปีคั้บ
ตัวแปรที่มีค่ามากในการทำธุรกิจ
ณ สนามบินนาริตะ ผู้บริหารชายชาวอเมริกันโบกรถคันหนึ่ง “ไปโรงแรม ครับ”
ลุงโชเฟอร์โค้งรับอ่างสุภาพ เมื่อก้าวขึ้นรถ ผู้บริหารแปลกใจมาก ข้างในรถขาวสะอาด มีผ้าลูกไม้สีขาวบริสุทธิ์หุ้มเบาะ แถมลุงคนขับสามถุงมือสีขาวสะอาด พร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม เขาจึงถามลุงว่า
“ถุงมือหรือผ้าหุ้มเบาะนี่ บริษัทบังคับให้ซักเหรอครับ”
ลุงยิ้มและตอบว่า”เปล่าครับ ผมซักเอง อยากให้ลูกค้ารู้สึกดีเวลาขึ้นรถผม”
ผู้บริหารอเมริกันยิ้มแห้งๆและส่ายหน้าเบาๆ ค่าซักพวกนี้ก็เป็นต้นทุนทั้งนั้น เดี๋ยวก็ได้กำไรน้อยลงกันพอดี เมื่อขับไปได้สักพัก คุณลุงก็ชี้ให้ผู้บริหารดูสองข้างทาง
“นั่นพระราชวังโตเกียว สร้างขึ้นเมื่อปี ส่วนสะพานตรงนั้น ชื่อสะพานพระพานคุณทราบไหมสองแห่งนี้เกี่ยวข้องกันยังไง เรื่องมีอยู่ว่า สมัยเอโดะ……”ผู้บริหารฟังอ่างสนอกสนใจ แต่ก็เผลอถามคุณลุงอีกว่า”ทำไมคุณถึงรู้ละเอียดและเล่าได้ขนาดนี้”ลุงยิ้มและตอบว่า”วันหยุดหรือช่วงเวลาว่าง ผมก็นั่งศึกษาเพิ่มเติมเอง ไปเดินหาซื้อหนังสือประวัติศาสตร์หนังสือท่องเที่ยวมาดูบ้าง เวลาลูกค้านั่ง จะได้มีอะไรเล่าให้แขกฟังเพลินๆ”
ระหว่างฟังผู้บริหารอเมริกันคำนวณตัวเลขในใจ ค่าหนังสือก็คงแพงอยู่ เพราะลุงรู้หลายเรื่องคงจะอ่านหลายเล่ม แถมวันหยุด แทนที่ลุงจะได้พักสบายๆ กลับต้องมานั่งอ่านตำราเยอะแยะเสียเวลาแกแท้ๆ คนญี่ปุ่นนี่จะทำงานไปถึงไหนกัน
แล้ววันหยุด คุณทำอะไรอีกบ้าง นอกจากอ่านหนังสือ”
“ก็อยู่กับภรรยาและลูกๆครับ ส่วนใหญ่ ก็พาครอบครัวขับรถเล่นในโตเกียว ศึกษาเส้นทางใหม่ๆไปด้วยในตัว ผมชอบหาเส้นทางลัด ทางที่สั้นๆ หรือรถไม่ติด จะได้ไปส่งผู้โดยสารได้เร็วๆใครๆก็อยากถึงที่หมายให้เร็วที่สุด ใช่ไหมครับ”
ผู้บริหารเริ่มคิดต่อขับรถตัวเองเส้นทางเปลืองนำ้มัน แถมถ้าพาผู้โดยสารไปเส้นทางลัด คนขับก็จะได้ค่าแท็กซี่น้อยลง ลุงนี่ช่างไม่รู้อะไรเลย
เมื่อถึงโรงแรม คุณลุงเปิดหลังรถและหยิบกระเป๋าของผู้บริหารลงมาวางอย่างนุ่มนวล ผู้บริหารประทับใจเรื่องราวและความใส่ใจของคุณลุงมาก จึงตั้งใจจะให้ทิปแก หนึ่งหมื่นเยน คุณลุงยิ้มและกล่าวปฏิเสธอย่างแข็งขัน”ที่ญี่ปุ่น ไม่มีธรรมเนียมการทิปครับ”
ผู้บริหารอเมริกันยิ่งเกาหัวแกรกๆ คุณลุง
จะเสียเงินทำความสะอาดรถบ่อยๆ ทำไม”
จะซื้อหนังสือมานั่งศึกษาเรื่องโตเกียวหรือ จะหาเส้นทางใหม่ๆ ไปทำไม ทิปก็ไม่เอาอีก กำไรก็ยิ่งลดลง คุณลุงเห็นผู้บริหารอเมริกันทำหน้างุนงง จึงกล่าวอย่างนอบน้อมว่า”แค่คุณมีความสุข แค่คุณประทับใจ แค่คุณรักโตเกียว รักประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น ผมก็มีความสุขแล้วครับ”
ผู้บริหารอเมริกันก็ยังคงไม่เข้าใจ ยังไงๆคุณลุงก็ขาดทุนอยู่ดี กำไรน้อย ไม่มีเาลาพักเป็นของตัวเอง เจ้านายก็ไม่รู้ว่าคุณลุงตั้งใจทำงานขนาดนี้ คุณลุงทำงานไปเพื่ออะไร
ผู้บริหารอเมริกันลากกระเป๋าเดินเข้าโรงแรมไปพร้อมคำถามในใจ เขาคงไม่ทันสังเกตว่ามีพนักงานโรงแรมหญิงเดินมาหาคุณลุงพร้อมบอกว่า”ซุซุกิซังคะ คราวที่แล้ว ขอบพระคุณมากนะคะ แขกติดใจคุณกันใหญ่บอกว่า คุณรู้สถานที่ต่างๆในโตเกียวดีมาก อย่างกับเป็นไกด์ทัวร์ ดิฉันอยากให้คุณช่วยไปรับแขกvip ท่านหนึ่งที่สนามบินค่ะ”
ผู้บริหารอเมริกันคงไม่ทับสังเกตอีกว่าในรถของคุณลุงมีแฟ้มสีเหลือง ข้างในเป็นตารางเวลาไปรับลูกค้าประจำ ตารางแน่นเอี๊ยด คุณลุงแทบไม่ต้องขับรถวนหาลูกค้าเลย มีแต่คนจะจองตัวคุณลุง
เพราะประทับใจในตัวแก แถมยังบอกต่อเพื่อนๆให้ใช้บริการคุณลุงอีกด้วย
ถ้าผู้บริหารอเมริกันอ่านถึงตอนจบตรงนี้ เขาคงคำนวณต่อว่าแล้วลูกค้าเก่ามีกี่%สร้างรายได้ได้กี่%คุ้มกับการลงทุน ค่านำ้มัน ค่าซักผ้าของคุณลุงไหม
คุณลุงแอบกระซิบบอกว่า ผู้บริหารลืมบวกตัวแปรไป๓ตัว ตัวแปรตัวนี้มีค่ามากถ้าใส่ลงไปในสมการ “กำไร=รายได้-ต้นทุน”ยังไงๆ กำไรแกก็เป็นบวกมหาศาล
ตัวแปรนั้นคือ”ความสุขจากการเห็นผู้อื่นมีความสุข ความอิ่มใจกับผลงานที่ตัวเองสร้างและความภูมิใจในคุณค่าของตัวเอง”
ณ สนามบินนาริตะ ผู้บริหารชายชาวอเมริกันโบกรถคันหนึ่ง “ไปโรงแรม ครับ”
ลุงโชเฟอร์โค้งรับอ่างสุภาพ เมื่อก้าวขึ้นรถ ผู้บริหารแปลกใจมาก ข้างในรถขาวสะอาด มีผ้าลูกไม้สีขาวบริสุทธิ์หุ้มเบาะ แถมลุงคนขับสามถุงมือสีขาวสะอาด พร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม เขาจึงถามลุงว่า
“ถุงมือหรือผ้าหุ้มเบาะนี่ บริษัทบังคับให้ซักเหรอครับ”
ลุงยิ้มและตอบว่า”เปล่าครับ ผมซักเอง อยากให้ลูกค้ารู้สึกดีเวลาขึ้นรถผม”
ผู้บริหารอเมริกันยิ้มแห้งๆและส่ายหน้าเบาๆ ค่าซักพวกนี้ก็เป็นต้นทุนทั้งนั้น เดี๋ยวก็ได้กำไรน้อยลงกันพอดี เมื่อขับไปได้สักพัก คุณลุงก็ชี้ให้ผู้บริหารดูสองข้างทาง
“นั่นพระราชวังโตเกียว สร้างขึ้นเมื่อปี ส่วนสะพานตรงนั้น ชื่อสะพานพระพานคุณทราบไหมสองแห่งนี้เกี่ยวข้องกันยังไง เรื่องมีอยู่ว่า สมัยเอโดะ……”ผู้บริหารฟังอ่างสนอกสนใจ แต่ก็เผลอถามคุณลุงอีกว่า”ทำไมคุณถึงรู้ละเอียดและเล่าได้ขนาดนี้”ลุงยิ้มและตอบว่า”วันหยุดหรือช่วงเวลาว่าง ผมก็นั่งศึกษาเพิ่มเติมเอง ไปเดินหาซื้อหนังสือประวัติศาสตร์หนังสือท่องเที่ยวมาดูบ้าง เวลาลูกค้านั่ง จะได้มีอะไรเล่าให้แขกฟังเพลินๆ”
ระหว่างฟังผู้บริหารอเมริกันคำนวณตัวเลขในใจ ค่าหนังสือก็คงแพงอยู่ เพราะลุงรู้หลายเรื่องคงจะอ่านหลายเล่ม แถมวันหยุด แทนที่ลุงจะได้พักสบายๆ กลับต้องมานั่งอ่านตำราเยอะแยะเสียเวลาแกแท้ๆ คนญี่ปุ่นนี่จะทำงานไปถึงไหนกัน
แล้ววันหยุด คุณทำอะไรอีกบ้าง นอกจากอ่านหนังสือ”
“ก็อยู่กับภรรยาและลูกๆครับ ส่วนใหญ่ ก็พาครอบครัวขับรถเล่นในโตเกียว ศึกษาเส้นทางใหม่ๆไปด้วยในตัว ผมชอบหาเส้นทางลัด ทางที่สั้นๆ หรือรถไม่ติด จะได้ไปส่งผู้โดยสารได้เร็วๆใครๆก็อยากถึงที่หมายให้เร็วที่สุด ใช่ไหมครับ”
ผู้บริหารเริ่มคิดต่อขับรถตัวเองเส้นทางเปลืองนำ้มัน แถมถ้าพาผู้โดยสารไปเส้นทางลัด คนขับก็จะได้ค่าแท็กซี่น้อยลง ลุงนี่ช่างไม่รู้อะไรเลย
เมื่อถึงโรงแรม คุณลุงเปิดหลังรถและหยิบกระเป๋าของผู้บริหารลงมาวางอย่างนุ่มนวล ผู้บริหารประทับใจเรื่องราวและความใส่ใจของคุณลุงมาก จึงตั้งใจจะให้ทิปแก หนึ่งหมื่นเยน คุณลุงยิ้มและกล่าวปฏิเสธอย่างแข็งขัน”ที่ญี่ปุ่น ไม่มีธรรมเนียมการทิปครับ”
ผู้บริหารอเมริกันยิ่งเกาหัวแกรกๆ คุณลุง
จะเสียเงินทำความสะอาดรถบ่อยๆ ทำไม”
จะซื้อหนังสือมานั่งศึกษาเรื่องโตเกียวหรือ จะหาเส้นทางใหม่ๆ ไปทำไม ทิปก็ไม่เอาอีก กำไรก็ยิ่งลดลง คุณลุงเห็นผู้บริหารอเมริกันทำหน้างุนงง จึงกล่าวอย่างนอบน้อมว่า”แค่คุณมีความสุข แค่คุณประทับใจ แค่คุณรักโตเกียว รักประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น ผมก็มีความสุขแล้วครับ”
ผู้บริหารอเมริกันก็ยังคงไม่เข้าใจ ยังไงๆคุณลุงก็ขาดทุนอยู่ดี กำไรน้อย ไม่มีเาลาพักเป็นของตัวเอง เจ้านายก็ไม่รู้ว่าคุณลุงตั้งใจทำงานขนาดนี้ คุณลุงทำงานไปเพื่ออะไร
ผู้บริหารอเมริกันลากกระเป๋าเดินเข้าโรงแรมไปพร้อมคำถามในใจ เขาคงไม่ทันสังเกตว่ามีพนักงานโรงแรมหญิงเดินมาหาคุณลุงพร้อมบอกว่า”ซุซุกิซังคะ คราวที่แล้ว ขอบพระคุณมากนะคะ แขกติดใจคุณกันใหญ่บอกว่า คุณรู้สถานที่ต่างๆในโตเกียวดีมาก อย่างกับเป็นไกด์ทัวร์ ดิฉันอยากให้คุณช่วยไปรับแขกvip ท่านหนึ่งที่สนามบินค่ะ”
ผู้บริหารอเมริกันคงไม่ทับสังเกตอีกว่าในรถของคุณลุงมีแฟ้มสีเหลือง ข้างในเป็นตารางเวลาไปรับลูกค้าประจำ ตารางแน่นเอี๊ยด คุณลุงแทบไม่ต้องขับรถวนหาลูกค้าเลย มีแต่คนจะจองตัวคุณลุง
เพราะประทับใจในตัวแก แถมยังบอกต่อเพื่อนๆให้ใช้บริการคุณลุงอีกด้วย
ถ้าผู้บริหารอเมริกันอ่านถึงตอนจบตรงนี้ เขาคงคำนวณต่อว่าแล้วลูกค้าเก่ามีกี่%สร้างรายได้ได้กี่%คุ้มกับการลงทุน ค่านำ้มัน ค่าซักผ้าของคุณลุงไหม
คุณลุงแอบกระซิบบอกว่า ผู้บริหารลืมบวกตัวแปรไป๓ตัว ตัวแปรตัวนี้มีค่ามากถ้าใส่ลงไปในสมการ “กำไร=รายได้-ต้นทุน”ยังไงๆ กำไรแกก็เป็นบวกมหาศาล
ตัวแปรนั้นคือ”ความสุขจากการเห็นผู้อื่นมีความสุข ความอิ่มใจกับผลงานที่ตัวเองสร้างและความภูมิใจในคุณค่าของตัวเอง”
✋热门推荐